บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัท” ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ขึ้น โดยนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบาย ดังต่อไปนี้
บทนิยาม
ท่าน หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ลูกค้า ซัพพลายเออร์ บุคคลภายนอก พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท
บริษัท หมายความรวมถึง บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไอ.เอส.เอ. แวลู จำกัด ที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น บริษัทย่อย บริษัทร่วมของบริษัท และหมายความรวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทหรือนิติบุคคลที่บริษัทมีอำนาจควบคุม หรือถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงในบริษัทหรือนิติบุคคลนั้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ว่าจะถือหุ้นเองโดยตรงหรือถือหุ้นโดยอ้อมผ่านบุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตาม
บริษัทร่วม หมายถึง บริษัทที่บริษัทหรือบริษัทย่อย ถือหุ้นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท และมีอำนาจในการมีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลนั้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสามารถแยกความแตกต่างหรือสามารถสืบค้นกลับไปที่ตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยลำพังหรือโดยรวมเข้ากับข้อมูลอื่น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราวๆ และกฎมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่นรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายฉบับนี้ใช้กับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่มีการเก็บรวบรวมจากบุคคลแต่ละรายดังต่อไปนี้ ได้แก่ พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน บุคคลที่อยู่ในความดูแลหรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้สมัครงานและ/หรือพนักงานซึ่งผู้สมัครและ/หรือพนักงานระบุชื่อให้แก่บริษัท บุคคลที่กระทำการแทนพนักงาน และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว ช่องทางที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเอกสาร แต่รวมถึงเว็บไซด์ของบริษัท หรือแอพพลิเคชั่นใดๆ สำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทจัดให้มีขึ้น และช่องทางของบุคคลภายนอกที่ท่านทำการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้
นโยบายฉบับนี้ไม่ได้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ เว้นแต่เท่าที่บริษัทจะได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือข้อตกลง
1.ข้อมูลใดบางที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน
บริษัทเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล” เท่าที่จำเป็นตามสมควรสำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคน 3 กลุ่มด้วยกัน กล่าวคือ
- กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน เช่น พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน บุคคลที่อยู่ในความดูแล หรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้สมัครงานและ/หรือพนักงานซึ่งผู้สมัครและ/หรือพนักงานระบุชื่อให้แก่บริษัท บุคคลที่กระทำการแทนพนักงาน และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว (เรียกรวมกันว่า “พนักงานและผู้สมัครงาน”)
- กลุ่ม Stakeholders ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้น และกรรมการของบริษัท
- กลุ่มบุคคลภายนอก เช่น ซัพพลายเออร์ ผู้รับจ้างช่วง ผู้ขายสินค้าและผู้ให้บริการอื่นๆ ผู้สนับสนุน ผู้ลงโฆษณา ตัวแทน คู่ค้า และผู้ร่วมธุรกิจ (เรียกรวมกันว่า “ซัพพลายเออร์”) และ ข้อมูลเกี่ยวกับ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ลูกจ้าง บุคลากรและผู้แทนอื่นๆ ของบริษัทที่บริษัทติดต่อด้วย (เรียกรวมกันว่า “ผู้แทน”) (ทั้งหมดเรียกรวมกันว่า “บุคคลภายนอก)
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจการที่มีกับบริษัท และสถานที่และวิธีการที่เก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน
- ข้อมูลที่ระบุตัวบุคคล อาทิเช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือรายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/บัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลระบุทรัพย์สินของท่าน เช่น ทะเบียนรถยนต์ รายละเอียดบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่านข้อมูลการเดินทาง เช่น การขอวีซ่า กำหนดการเดินทาง ข้อมูลเที่ยวบิน และยังรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ความเชื่อทางศาสนา ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะทางร่างกาย ประวัติอาชญากรรม การกระทำ (หรือการถูกกล่าวหาว่ากระทำการ) ที่เป็นความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี หรือข้อมูลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และข้อมูลทางชีวมิติ เช่น รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ
- ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน อาทิเช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน/มหาวิทยาลัย ประวัติการเรียน การทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง
- รายละเอียดการทำงานพื้นฐาน อาทิเช่น รายละเอียดการติดต่อสถานที่ทำงานของท่าน หมายเลขพนักงานตำแหน่งงาน รายละเอียดของงาน สายการบังคับบัญชา ชั่วโมงการทำงานและระเบียบและเงื่อนไขของการจ้างงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานของท่าน อาทิเช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่างๆ
- ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าจ้าง อาทิเช่น รายละเอียดการจ่ายเงินเดือนและผลประโยชน์อื่นของท่าน ประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับการเกษียณอายุ/บำนาญ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลทางภาษี ข้อมูลของท่านเกี่ยวกับสหกรณ์ออมทรัพย์ และข้อมูลของบุคคลภายนอกผู้รับผลประโยชน์
- ประวัติเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการทำงาน รวมถึง การประเมินผลการทำงาน ความเห็นของบริษัทต่อการทำงานของพนักงาน ผลตอบรับ ข้อมูลเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับการทำงานหรือการร้องทุกข์ ประวัติวันหยุดประจำปี ประวัติการลาป่วยหรือขาดงาน ประวัติข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การตรวจร่างกายและสุขภาพ หรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานในสถานประกอบการและความปลอดภัยรวมถึงการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยง
- ข้อมูลเกี่ยวกับความเท่าเทียมและความหลากหลาย ซึ่งบริษัทจะจัดเก็บเฉพาะกรณีที่ท่านสมัครใจ
- ข้อมูลภาพหรือเสียงของพนักงาน หากต้องจัดให้มีการบันทึกเพื่อการดำเนินการกระบวนการทางวินัย เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานการสอบสวน
- ข้อมูลด้านกฎหมายและประวัติอาชญากรรม ในกรณีที่มีการกำหนดให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับและในบางสถานการณ์โดยเฉพาะ
กลุ่ม Stakeholders
- ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล อาทิเช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือรายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/บัตรประจำตัวประชาชน
- ข้อมูลฐานะทางการเงิน เช่น รายได้ ประเทศแหล่งที่มารายได้ แหล่งที่มารายได้อื่น แหล่งที่มาเงินลงทุน มูลค่าทรัพย์สินส่วนตัว บัญชีรวมถึงข้อมูลที่ระบุทรัพย์สินของท่าน เช่น ทะเบียนรถยนต์ รายละเอียดบัญชีธนาคาร พันธบัตร บัตรเงินฝาก ตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ หลักทรัพย์จดทะเบียน หน่วยลงทุน หนังสือรับรองเงินเดือน
- ข้อมูลทางการศึกษาคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน อาทิเช่น การศึกษาสูงสุด สถาบัน สาขา ประเทศและปีที่สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตร คุณวุฒิทางการเงิน อาชีพ รายละเอียดการทำงาน ชื่อสถานที่ทำงาน ประเภทธุรกิจของสถานที่ทำงาน ตำแหน่ง ฝ่าย ลักษณะการทำงาน ความรับผิดชอบ ชื่อเลขานุการพร้อมเบอร์ติดต่อ อายุงานปัจจุบัน ประสบการณ์ทำงาน
- ประวัติการกระทำผิดกฎหมาย ประวัติอาชญากรรม มีการยับยั้งการทำธุรกรรมหรือไม่ หรือมีประวัติการฟอกเงินหรือไม่ เคยถูกปฏิเสธการทำธุรกรรมจากสถาบันการเงินอื่นหรือไม่ ข้อมูลบุคคลล้มละลาย ข้อมูลนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลใดๆ เพื่อประกอบการทำ KYC ข้อมูลอาชีพและ/หรือประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อมูลการกระทำความผิดที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกำกับดูแล
- ข้อมูลในการประเมินความเหมาะสมในการลงทุน
- ข้อมูลการซื้อขายและการทำธุรกรรม
- ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในกลุ่ม Stakeholders เช่น คู่สมรส บุตร ผู้ติดต่อหรือบุคคลที่ติดต่อในกรณีเร่งด่วน ผู้ค้ำประกัน หรือผู้ให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลและ/หรือผู้จัดการมรดก บิดามารดาและ/หรือผู้แทนโดยชอบธรรม ข้อมูลของผู้รับมอบอำนาจรวมถึงผู้รับมอบอำนาจทอดสุดท้าย ผู้รับผลประโยชน์
กลุ่มบุคคลภายนอก
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่นๆ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ รูปถ่าย ข้อมูลทางชีวภาพ และเสียงที่บันทึกไว้
- ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรมของผู้แทนที่ส่งมาให้บริการแก่บริษัทรายละเอียดเกี่ยวกับการขายหรือให้บริการโดยท่าน
- ข้อมูลการชำระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดบัญชีธนาคาร การเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต เลขที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รวมถึงชื่อผู้ถือ (ถ้ามี)
- กรณีที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทที่มีไว้สำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใดๆ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี คุกกี้ และสำหรับแอพพลิเคชั่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมสถานที่และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่ท่านใช้
- ข้อมูลการเดินทาง
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องที่กระทำโดยสมัครใจ ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลที่บริษัทร้องขอ แต่การไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผลให้บริษัทไม่อาจจัดให้สินค้าหรือบริการบางอย่างให้แก่ท่าน
ข้อมูลบางอย่างที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจถือเป็น “ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” บริษัทมุ่งหมายที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวจากท่านเฉพาะในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งและเท่าที่จำเป็นต้องใช้ตามสมควรในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือในกรณีที่กฎหมาย หรือศาล หรือหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือในกรณีที่ท่านได้จงใจเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณชนแล้วเท่านั้น และมุ่งหมายที่จะแบ่งปันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเท่านั้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
- เพื่อดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน ให้แก่สมาชิก
- เพราะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน
- เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญอื่นๆ
อนึ่ง การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นโดยบริษัท บริษัทจะกระทำเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่านตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
โดยทั่วไปบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ใบสมัครงาน (Application Form) หรือเอกสารใดๆ เพื่อเป็นบุคลากรหรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท เอกสารหรือระบบการลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ขายสินค้าให้แก่บริษัท ช่องทางการกรอกข้อมูลผ่านระบบของบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการแจ้งต่อบริษัทไม่ว่ากรณีด้วยใดๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ video/virtual conference ช่องทางการรับส่งข้อมูลผ่านทางอีเมล์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน รวมถึงได้รับข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทหรือบริษัทใดๆที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือจัดให้มีขึ้น
บริษัทไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่มีการให้ข้อมูลเอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ตามที่กล่าวไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท โดยท่านอาจมีความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยตรงหรือไม่ก็ได้ เช่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก
- นายจ้างของท่าน หากบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูลติดต่อของท่าน
- บริษัทจัดหางาน Recruitment Agency หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำงานหรือสมัครงาน
- หน่วยงานที่ท่านเป็นสมาชิก
- พนักงานในกลุ่มบริษัท โดยผ่านการแนะนำไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ หรือทางอีเมล์ หรือช่องทางสื่อสารอื่น
- โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่นๆ หรือผู้แทนของบุคคลดังกล่าว
- บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ ธนาคาร สถาบันการเงิน
- ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการ
- ผู้แทนของท่าน และ
- แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมายและการทำการตลาดที่เปิดเผยต่อสาธารณะและจัดทำขึ้นเพื่อการค้าทั้งของภาคเอกชน สมาคมการค้าใดๆ และ/หรือหน่วยงานของรัฐ (เช่น เว็บไซต์ต่างๆ) รวมถึง Social Media อื่นๆ เช่น Facebook LinkedIn ฯลฯ
3. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้เยี่ยมชม และผู้แทน เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการของตนได้ โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้เยี่ยมชม และผู้แทน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เป็นต้น
กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน
- เพื่อการบริหารและจัดการพนักงานและธุรกิจตลอดจนการประกอบกิจการของบริษัท
- เพื่อการจัดการด้านทรัพยากรบุคคล เช่น การช่วยเหลือพนักงานในการปรับตัวเข้ากับงานใหม่ (onboarding) การวางแผนและการดำเนินการเกี่ยวกับการจ้างพนักงานและการฝึกอบรม การเลื่อนขั้น การย้ายงาน การมอบหมายให้พนักงานไปทำงานที่อื่น การวางแผนกำลังคน เป็นต้น
- เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของพนักงานเมื่อเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลของพนักงาน โดยอ้างอิงนโยบายสำหรับผู้ใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
- เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน เช่น นำเสนอผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า หรือคู่ค้า เพื่อการติดต่อสื่อสารอื่นๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการเพื่อจัดการฝึกอบรม หรือทำการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทำการสำรวจผู้บริโภค เพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัย
- เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการ กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจของบริษัทไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
- เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัท และกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
- เพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดการจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย ผลประโยชน์ แผนค่าตอบแทน ข้อเสนอในอนาคต รางวัล บัญชีค่าตอบแทน
- เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างงานรายเดือนหรือรายวัน
- เพื่อการติดต่อสื่อสารภายใน การแจ้งการนัดหมายแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล์ หรือไปรษณีย์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่นแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่สามารถใช้ในการติดต่อได้ หรือผ่านช่องทางใดๆ เพื่อเป็นการสื่อสารให้พนักงานทราบ
- เพื่อการประเมินใบสมัครงานสำหรับโอกาสในงานใหม่และการตัดสินใจในการจ้างงาน รวมถึงการประเมินการเลื่อนตำแหน่ง
- เพื่อการทำแบบสำรวจ สถิติของรัฐบาล หรือ การตอบแบบฟอร์มคำร้องใดๆ ของรัฐ ไม่ว่าด้วยเหตุใด
- เพื่อการตรวจสอบข้อมูลของท่านตามกฎหมาย ข้อมูลทางกายภาพ หรือความสามารถในการทำงานของท่าน การตรวจสอบโอกาสที่เท่าเทียมกัน
- เพื่อการตรวจสอบข้อร้องเรียนและประเด็นการประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางวินัย
- เพื่อใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัททั้งภายในและภายนอก
- เพื่อจัดทำบันทึกข้อมูลลูกจ้าง การทำประกัน ประวัติทางการแพทย์และแผนประกัน
- เพื่อการตรวจสอบการอ้างอิงและประวัติโดยพนักงานใดๆ ของบริษัท หรือบุคคลอื่น การหลีกเลี่ยงการขัดกันของผลประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงแนวโน้มที่จะเกิดการขัดกันของผลประโยชน์ การปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อบังคับ หรือผู้มีอำนาจทางปกครองที่อยู่ในหรือนอกประเทศของท่าน และเพื่อตรวจสอบข้อตกลงการจ้างโดยสมาชิกใดๆ ของบริษัท
- เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่กฎหมาย เพื่อการให้ความช่วยเหลือ เพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใดๆ
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท หรือการติดตามทวงหนี้ กรณีที่พนักงานมีหนี้ต่อบริษัท
- เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทำธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อ หรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
- เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อการดำเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่างๆ ข้างต้น และ
- เพื่อการดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น
กลุ่ม Stakeholders
- เพื่อการบริหารและจัดการพนักงานและธุรกิจตลอดจนการประกอบกิจการของบริษัท
- เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของผู้ถือหุ้น กรรมการอิสระ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับกลุ่มคนดังกล่าว เช่น คู่สมรส บุตร ผู้ติดต่อหรือบุคคลที่ติดต่อในกรณีเร่งด่วน ผู้ค้ำประกัน หรือผู้ให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลและ/หรือผู้จัดการมรดก บิดามารดาและ/หรือผู้แทนโดยชอบธรรม ข้อมูลของผู้รับมอบอำนาจรวมถึงผู้รับมอบอำนาจทอดสุดท้าย ผู้รับผลประโยชน์
- เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน การบริหารขององค์กร เช่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำวาระการประชุมเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการ หรือการประชุมหรือการจัดการภายในขององค์กร รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรโดยให้ Stakeholders เข้าร่วม และการประเมินความพึงพอใจภายหลังจากการเข้าร่วมกิจกรรม
- เพื่อการซื้อขายการทำธุรกรรมของ Stakeholders รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุน ตามกระบวนการกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ
- เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ รวมถึงหลักการการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งกำหนดขึ้นโดยรัฐ หรือโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจของบริษัท รวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
- เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัท และกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
- เพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดการจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย ผลประโยชน์ แผนค่าตอบแทน ข้อเสนอในอนาคต รางวัล บัญชีค่าตอบแทน
- เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา
- เพื่อการติดต่อสื่อสารภายใน การแจ้งการนัดหมายแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล์ หรือไปรษณีย์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่สามารถใช้ในการติดต่อได้ หรือผ่านช่องทางใดๆ เพื่อเป็นการสื่อสารให้ Stakeholders ทราบ
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท หรือการติดตามทวงหนี้ กรณีที่ Stakeholders มีหนี้ต่อบริษัท
- เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่กฎหมาย เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใดๆ และการดำเนินการตามหน้าที่ในรายงาน และข้อกำหนดต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใดๆ
- เพื่อการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม มีการถูกยับยั้งการทำธุรกรรมหรือไม่ หรือมีประวัติการฟอกเงินหรือไม่ เคยถูกปฏิเสธการทำธุรกรรมจากสถาบันการเงินอื่นหรือไม่ ข้อมูลบุคคลล้มละลาย ข้อมูลนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลใดๆ เพื่อประกอบการทำ KYC ข้อมูลอาชีพและ/หรือประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อมูลการกระทำความผิดที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงเพื่อป้องกันหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่า เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทำธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อการดำเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่างๆ ข้างต้น และ
- เพื่อดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น
กลุ่มบุคคลภายนอก
- เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการทำความรู้จัก ยืนยันตัวตน ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลใดๆ ที่ท่านให้กับบริษัท
- เพื่อเสนอ ขาย จัดให้ บริหารจัดการ ดำเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้าง และจัดการเกี่ยวกับสินค้าและบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อเพื่อตอบรับคำสั่งซื้อของท่าน และจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อของท่าน หรือให้บริการแก่ท่าน
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อเข้าทำสัญญาระหว่างท่านและบริษัท เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทำให้แล้วเสร็จ และทำให้เกิดผลซึ่งข้อร้องขอ หรือธุรกรรมที่ระบุในเอกสารนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านอาจส่งให้บริษัทเป็นครั้งคราว เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงใดๆ ที่อาจมีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัท การเก็บเงินค้างชำระจากท่าน และการปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกสัญญา การติดตามทวงถามหนี้ การบังคับคดีอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
- ในกรณีที่ท่านเป็นผู้แทนของลูกค้า เพื่อจัดให้บริการและ/หรือสินค้าของบริษัทแก่ท่าน เพื่อการให้หรือรับบริการรับประกันสินค้า ติดตั้ง ซ่อมแซมสินค้า ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้า และบริการของบริษัท ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า เพื่อให้บริการสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือในการจัดการบริการและ/หรือสินค้า
- ในกรณีที่ท่านเป็นซัพพลายเออร์ และผู้แทน เพื่อการรับสินค้าหรือบริการจากท่าน การใช้สิทธิใดๆ ภายใต้สัญญาที่ท่านมีต่อบริษัท หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับบริการและ/หรือสินค้า เพื่อรับบริการสนับสนุนหรือรับความช่วยเหลือในการจัดการบริการและ/หรือสินค้า หรือติดต่อท่านเมื่อมีข้อสอบถาม
- การติดต่อสื่อสารกับท่าน ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบัญชีใดๆ ที่ท่านอาจมีกับบริษัท การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ในอนาคต
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงินการจัดทำใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน การยืนยันคำสั่งซื้อรวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการตรวจสอบของบริษัท
- เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอื่นที่บริษัทเห็นว่าผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ หรือผู้แทนอาจสนใจ (ซึ่งผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ หรือผู้แทนสามารถแจ้งบริษัทได้ทุกเมื่อหากไม่ต้องการได้รับข้อมูลประเภทนี้)
- เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
- เพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ต่างๆ การส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่นๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทำการวิเคราะห์เชิงสถิติ หรือการวิเคราะห์ตลาด และทำการสำรวจผู้บริโภค เพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัย
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทำธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
- เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
- เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใดๆ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านคุณภาพและการฝึกฝนอบรม เมื่อมีการบันทึกการติดต่อสื่อสารของบริษัท
- เพื่อการดำเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่างๆ ข้างต้น และ
- เพื่อดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น
หากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด บริษัทมุ่งหมายที่จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นๆ
4. บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้อื่นในกรณีใดและอย่างไร
บริษัทไม่ได้ขายข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกในลักษณะนิรนาม หรือในลักษณะข้อมูลรวมที่ไม่สามารถระบุหรือทราบตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
บริษัทมุ่งหมายให้การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดอยู่เพียงเพื่อวัตถุประสงค์แต่เดิมที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อการดำเนินการทางธุรกิจและการบริหารจัดการของบริษัท รวมถึงกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อจัดให้สินค้าหรือบริการตามที่ท่านขอรับให้แก่ท่าน เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัย ดังรายละเอียดข้างต้น
นอกจากนี้ ในบางครั้งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานภายนอกบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกับที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อจัดให้สินค้า บริการ หรือกิจกรรมให้แก่ท่านตามที่ท่านขอ เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท เพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัยหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลต่อไปนี้
- บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) ไม่ว่าจะอยู่ ณ ประเทศใดทั่วโลก
- ผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้บริหารของผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล บุคคลในกลุ่มในเครือของผู้ถือหุ้น
- ผู้จัดงาน ผู้ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และผู้สนับสนุนงานอีเวนท์หรือนิทรรศการ
- โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่นๆ และผู้แทนของบุคคลดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนท์หรือนิทรรศการ
- ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ และซัพพลายเออร์และตัวแทนลักษณะอื่นๆ ที่ดำเนินการในนามของบริษัท หรือถูกว่าจ้างโดยบริษัท เช่น หน่วยงานที่จัดให้สินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนท์ บริการด้านการธนาคารหรือการเงิน บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น ระบบคลาวด์ หรือเครือข่ายข้อมูลบริการลงทะเบียนเข้าร่วมงานอีเวนท์ บริการการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ บริการรักษาความปลอดภัย บริการสอบบัญชี บริการด้านกฎหมาย บริการประกันภัย บริการวิจัยตลาด และบริการจัดการอีเมล์หรือไปรษณีย์ และผู้แทนและตัวแทนที่ขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในนามของบริษัท บริการจัดการประมูลสินค้า ทั้งนี้ หน่วยงานเหล่านี้บางรายอาจไม่อยู่ในประเทศไทยและในประเทศนั้นอาจไม่มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับในประเทศ หรือมีแต่ไม่เพียงพอ หรือได้มาตรฐานเทียบเท่ากับกฎมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
- บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน แล้วแต่กรณี
- บุคคลใดก็ตามที่ท่านให้ความยินยอมในการรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ผู้ที่ซื้อหรือขาย หรือจะซื้อหรือจะขาย หากบริษัทขายธุรกิจหรือกิจการของบริษัทบางส่วน ควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อธุรกิจหรือบริษัทอื่น และ
- บุคคลใดหรือหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย ตามคำสั่งศาล หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานของรัฐ หรือองค์การเอกชน หรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ในการดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ทราบ
- ผู้รับประกันภัย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และ/หรือเป็นข้อมูลในการเอาประกันภัย ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล หรือเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ
- หน่วยงานด้านการสาธารณสุข โรงพยาบาล เพื่อการตรวจสุขภาพ รักษาพยาบาล
ท่านยินยอมและรับทราบว่า บริษัทอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเพื่อพัฒนา หรือบำรุงรักษาระบบของบริษัท ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทจะควบคุมและวางมาตรการเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นทำการเก็บรักษา ใช้เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายส่วนบุคคลฉบับนี้ ดำเนินการเพื่อให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
5. การเก็บรักษาความปลอดภัยในข้อมูลและระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทได้มีมาตรการ ดังนี้
- กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือการยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด
- บริษัทได้กำหนดวิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- ในการส่งการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรภายนอก หรือยังต่างประเทศ รวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด เก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
- กรณีที่บริษัทมีการจ้างหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เช่น บริษัทรับฝากเอกสารต่างๆ ที่ทางบริษัทได้ใช้บริการ บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงานที่ถูกว่าจ้างในการดำเนินการดังกล่าวให้จัดเก็บข้อมูลเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและมิให้มีการนำเอกสารดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากการดำเนินงานของทางบริษัทเท่านั้น
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีความสัมพันธ์กับท่าน เช่น ตลอดระยะเวลาที่มีการซื้อขายสินค้าของบริษัท และเมื่อท่านยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แต่ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปไม่เกินระยะเวลา 10 ปีนับแต่การติดต่อครั้งสุดท้ายหรือจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัทจะสิ้นสุดลง เว้นแต่ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปนานกว่า 10 ปี หรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้บนเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจต้องมีการโอนข้อมูลไปนอกประเทศไทยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6. เว็บไซต์ของกลุ่มบริษัท
เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในหน้าที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ของบริษัทจะบันทึกการเยี่ยมชมนั้นและเก็บข้อมูลต่อไปนี้
- ที่อยู่ไอพีของท่าน (ซึ่งหากอธิบายโดยใช้คำทั่วไป หมายถึง ข้อมูลเฉพาะที่กำหนดขึ้นสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อมีการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต)
- คำค้นหาที่ใช้
- ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ที่ท่านกำลังใช้ และ
- ข้อมูลที่ท่านดาวน์โหลด (เช่น หน้าเว็บ หรือไฟล์เอกสารหรือซอฟต์แวร์อื่น) และเวลาที่ทำการดาวน์โหลด
ข้อมูลข้างต้นนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสถิติเท่านั้น เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัทที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเยี่ยมชมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้บริษัททราบได้ว่าจะปรับปรุงบริการของบริษัทอย่างไร
หากท่านติดต่อบริษัท ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ใดๆ ของบริษัท หรืออีเมล์ถึงบริษัท บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่ท่านขอหรือเพื่อตอบข้อสอบถามของท่านเท่านั้น นอกจากนี้ หากท่านให้ความยินยอมตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทอาจเพิ่มที่อยู่อีเมล์ของท่านไว้ในรายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมายของบริษัท อย่างไรก็ดี ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้หากท่านไม่ต้องการรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท งานอีเวนท์ การส่งเสริมการขาย สินค้า และหรือบริการของบริษัทอีก
คุกกี้
สำหรับในส่วนของเว็บไซต์ที่จำกัดการเข้าถึง บริษัทจะใช้ “คุกกี้” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จดจำอุปกรณ์ของท่าน และเก็บข้อมูลบางประเภทในระหว่างที่มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์จากอุปกรณ์เครื่องเดิม เว็บไซต์ของบริษัทใช้คุกกี้เพื่อให้สามารถตอบสนองท่านได้ดีขึ้นเมื่อท่านเข้าใช้บริการบางส่วนของเว็บไซต์ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและวิเคราะห์จะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อของท่าน เช่น ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ และภาษาที่เลือกใช้ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ และไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้งานรายใดๆ ได้ ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ไม่ให้ตรวจหาคุกกี้ หรือเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้ได้หากท่านต้องการ
สิ่งสำคัญคือท่านต้องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านและเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านควรออกจากระบบทุกครั้งหากท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น
การบันทึกผู้เข้าถึงระบบ (Log Files)
บริษัทอาจดำเนินการบันทึกผู้เข้าถึงระบบหรือชมเว็บ หรือแอพพลิเคชั่น (Log Files) โดยเก็บบันทึกการเข้าออกแบบอัตโนมัติ รวมถึงที่อยู่ IP , รายงานข้อขัดข้อง , กิจกรรมระบบ ตลอดจนวันที่ เวลา และ URL ของผู้ใช้ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวกับข้อมูลซึ่งระบุตัวบุคคลได้ พร้อมทั้งจัดเก็บบันทึกตาม ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
กล้องวงจรปิด
บริษัทใช้กล้องวงจรปิดในการบันทึกภาพของบุคคลและยานพาหนะของบุคคลในและรอบๆ สถานที่ของบริษัท เพื่อผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยสาธารณะและเพื่อการป้องกันและตรวจจับอาชญากรรม กล้องวงจรปิดของบริษัทตรวจสอบทางเข้า ห้องโถง ระเบียง ที่จอดรถด้านนอกอาคาร รอบรั้วของอาคารและสถานที่ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงสถานที่ของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีการบันทึกและเขียนทับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ตำแหน่งกล้องถูกเลือกเพื่อลดการจับภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ที่ถูกต้องสำหรับการตรวจสอบและระบบเฝ้าระวังไม่ได้ใช้บันทึกเสียง
การป้อนข้อมูลสด (Live feeds) จากกล้องวงจรปิดจะได้รับการตรวจสอบเฉพาะในกรณีที่จำเป็นโดยผู้มีอำนาจของบริษัทเท่านั้น บริษัทให้ความเชื่อมั่นว่าการป้อนข้อมูลสดและภาพที่บันทึกจากกล้องจะถูกดูโดยพนักงานของบริษัทที่ผ่านการอนุมัติเท่านั้น เนื่องจากพนักงานดังกล่าวมีหน้าที่ความรับผิดโดยตรงจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของท่านโดยจะไม่มีกล้องวงจรปิดวางในบริเวณที่พึงคาดหมายได้ว่าต้องมีความเป็นส่วนตัว เช่น ในห้องน้ำ
เว็บไซต์อื่นๆ
เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งในกรณีดังกล่าว บริษัทไม่ใช้ผู้ควบคุมเว็บไซต์เหล่านั้น และไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้ดำเนินการเว็บไซต์เหล่านั้นในเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
นอกจากนี้ บริษัทอาจจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อบุคคลภายนอก รวมถึงการจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อลูกค้าสำหรับนิทรรศการหรืองานอีเวนท์ของลูกค้า เว็บไซต์เหล่านี้เป็นของลูกค้าของบริษัทหรือบุคคลภายนอกรายอื่น และแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ดังกล่าวจัดทำสำหรับนิทรรศการของลูกค้าหรือบุคคลอื่นเท่านั้น และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของลูกค้าและบุคคลอื่นดังกล่าวในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนเว็บไซต์ที่มีลิงค์ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท หรือเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใดๆ ที่จัดการหรือจัดให้มีโดยบริษัทเพื่อบุคคลภายนอก บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของข้อมูล ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นนั้นก่อน
7. ผู้เยาว์
บริษัทไม่อาจทราบอายุของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้ หากท่านเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนแก่บริษัทโดยที่ท่านไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม ท่านอาจติดต่อบริษัทและขอให้บริษัทลบข้อมูลนั้นได้ ตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
8. การให้ความยินยอม
เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับอนุญาต เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท หรือใช้หรือเข้าถึงเว็บไซต์ใดๆ ของบริษัท จะถือว่า
- ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดอื่นใดตามที่ระบุข้างต้น (ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้เป็นครั้งคราว) เว้นแต่และจนกว่าท่านจะแจ้งเพิกถอนความยินยอมนั้นต่อบริษัทท่านอาจขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้โดยการแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือว่าท่านขอเพิกถอนความยินยอม ทั้งนี้ บริษัทอาจไม่ดำเนินการตามคำขอของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายอนุญาต และ
- ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทโดยเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกและบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มบริษัท ตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดอื่นใดตามที่ระบุข้างต้น ท่านอาจขอเพิกถอนความยินยอมของท่าน เมื่อใดก็ได้โดยการแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือว่าท่านขอเพิกถอนความยินยอม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นก่อน และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นแล้ว หรือมีสิทธิโดยประการอื่นที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท จะถือว่าท่านให้คำรับประกันว่าบุคคลนั้นทราบและให้ความยินยอมตามข้อกำหนดของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว
หากกฎมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมเพิ่มเติมบริษัท หรือผู้ให้บริการแก่บริษัทรายใดๆ ที่เป็นบุคคลภายนอก จะดำเนินการให้ได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น
ท่านมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัทเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามคำขอของท่าน หรือจัดให้บริการที่ท่านขอรับให้แก่ท่านได้ การที่ท่านไม่อนุญาตให้เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลบุคคลบางประเภทตามที่บริษัทได้แจ้งหรือขอ อาจทำให้บริษัทไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ หรือไม่สามารถประกอบธุรกิจ ดำเนินการทางธุรกรรมกับท่าน
9. สิทธิของท่าน
9.1 สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
9.2 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
9.3 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
9.4 สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
9.5 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว สิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทจำกัดการประมวลผลข้อมูล โดยผู้ควบคุมข้อมูลสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ แต่ไม่สามารถนำไปประมวลผลข้อมูลได้อีกต่อไป เว้นแต่พนักงานจะให้ความยินยอม หรือได้รับการยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
9.6 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
9.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
9.8 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10. ติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) สำนักงานแห่งใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 39/3 หมู่ที่ 8 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 โทร.034-424437-42
บริษัทอาจคิดค่าใช้จ่ายตามสมควรสำหรับการดำเนินการตามคำร้องขอข้างต้น
11. การทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยี ท่านควรตรวจสอบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นระยะๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบหากมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้
นโยบายนี้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป