บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน)  ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัท” ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ขึ้น โดยนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบาย ดังต่อไปนี้       

บทนิยาม

          ท่าน หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ลูกค้า ซัพพลายเออร์ บุคคลภายนอก พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท

          บริษัท หมายความรวมถึง บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไอ.เอส.เอ. แวลู จำกัด ที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น บริษัทย่อย บริษัทร่วมของบริษัท และหมายความรวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย

          บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทหรือนิติบุคคลที่บริษัทมีอำนาจควบคุม หรือถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงในบริษัทหรือนิติบุคคลนั้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ว่าจะถือหุ้นเองโดยตรงหรือถือหุ้นโดยอ้อมผ่านบุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตาม

          บริษัทร่วม หมายถึง บริษัทที่บริษัทหรือบริษัทย่อย ถือหุ้นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท และมีอำนาจในการมีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัท

          ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลนั้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสามารถแยกความแตกต่างหรือสามารถสืบค้นกลับไปที่ตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยลำพังหรือโดยรวมเข้ากับข้อมูลอื่น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

          ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราวๆ และกฎมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่นรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน

          การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

          นโยบายฉบับนี้ใช้กับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่มีการเก็บรวบรวมจากบุคคลแต่ละรายดังต่อไปนี้ ได้แก่ พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน บุคคลที่อยู่ในความดูแลหรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้สมัครงานและ/หรือพนักงานซึ่งผู้สมัครและ/หรือพนักงานระบุชื่อให้แก่บริษัท บุคคลที่กระทำการแทนพนักงาน และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว ช่องทางที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเอกสาร แต่รวมถึงเว็บไซด์ของบริษัท หรือแอพพลิเคชั่นใดๆ สำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทจัดให้มีขึ้น และช่องทางของบุคคลภายนอกที่ท่านทำการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้

          นโยบายฉบับนี้ไม่ได้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ เว้นแต่เท่าที่บริษัทจะได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือข้อตกลง

1.ข้อมูลใดบางที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน

          บริษัทเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล” เท่าที่จำเป็นตามสมควรสำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้

          ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคน 3 กลุ่มด้วยกัน กล่าวคือ

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจการที่มีกับบริษัท และสถานที่และวิธีการที่เก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน

กลุ่ม Stakeholders

กลุ่มบุคคลภายนอก

          การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องที่กระทำโดยสมัครใจ ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลที่บริษัทร้องขอ แต่การไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผลให้บริษัทไม่อาจจัดให้สินค้าหรือบริการบางอย่างให้แก่ท่าน

          ข้อมูลบางอย่างที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจถือเป็น “ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” บริษัทมุ่งหมายที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวจากท่านเฉพาะในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งและเท่าที่จำเป็นต้องใช้ตามสมควรในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือในกรณีที่กฎหมาย หรือศาล หรือหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือในกรณีที่ท่านได้จงใจเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณชนแล้วเท่านั้น และมุ่งหมายที่จะแบ่งปันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเท่านั้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

อนึ่ง การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นโดยบริษัท บริษัทจะกระทำเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่านตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

          โดยทั่วไปบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ใบสมัครงาน (Application Form) หรือเอกสารใดๆ เพื่อเป็นบุคลากรหรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท เอกสารหรือระบบการลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ขายสินค้าให้แก่บริษัท ช่องทางการกรอกข้อมูลผ่านระบบของบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการแจ้งต่อบริษัทไม่ว่ากรณีด้วยใดๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ video/virtual conference ช่องทางการรับส่งข้อมูลผ่านทางอีเมล์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน รวมถึงได้รับข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทหรือบริษัทใดๆที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือจัดให้มีขึ้น

          บริษัทไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่มีการให้ข้อมูลเอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ตามที่กล่าวไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

          ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท โดยท่านอาจมีความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยตรงหรือไม่ก็ได้ เช่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก

3. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

          บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้เยี่ยมชม และผู้แทน เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการของตนได้ โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้เยี่ยมชม และผู้แทน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เป็นต้น

กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน

กลุ่ม Stakeholders

กลุ่มบุคคลภายนอก

หากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด บริษัทมุ่งหมายที่จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นๆ

4. บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้อื่นในกรณีใดและอย่างไร

          บริษัทไม่ได้ขายข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกในลักษณะนิรนาม หรือในลักษณะข้อมูลรวมที่ไม่สามารถระบุหรือทราบตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

          บริษัทมุ่งหมายให้การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดอยู่เพียงเพื่อวัตถุประสงค์แต่เดิมที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อการดำเนินการทางธุรกิจและการบริหารจัดการของบริษัท รวมถึงกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อจัดให้สินค้าหรือบริการตามที่ท่านขอรับให้แก่ท่าน เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัย ดังรายละเอียดข้างต้น

          นอกจากนี้ ในบางครั้งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานภายนอกบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกับที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อจัดให้สินค้า บริการ หรือกิจกรรมให้แก่ท่านตามที่ท่านขอ เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท เพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัยหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย

          บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลต่อไปนี้

          ท่านยินยอมและรับทราบว่า บริษัทอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเพื่อพัฒนา หรือบำรุงรักษาระบบของบริษัท ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทจะควบคุมและวางมาตรการเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นทำการเก็บรักษา ใช้เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายส่วนบุคคลฉบับนี้ ดำเนินการเพื่อให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

5. การเก็บรักษาความปลอดภัยในข้อมูลและระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล

          เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทได้มีมาตรการ ดังนี้

  1. กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือการยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด
  2. บริษัทได้กำหนดวิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  3. ในการส่งการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรภายนอก หรือยังต่างประเทศ รวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด เก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
  4. กรณีที่บริษัทมีการจ้างหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เช่น บริษัทรับฝากเอกสารต่างๆ ที่ทางบริษัทได้ใช้บริการ บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงานที่ถูกว่าจ้างในการดำเนินการดังกล่าวให้จัดเก็บข้อมูลเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและมิให้มีการนำเอกสารดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากการดำเนินงานของทางบริษัทเท่านั้น

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีความสัมพันธ์กับท่าน เช่น ตลอดระยะเวลาที่มีการซื้อขายสินค้าของบริษัท และเมื่อท่านยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แต่ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปไม่เกินระยะเวลา 10 ปีนับแต่การติดต่อครั้งสุดท้ายหรือจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัทจะสิ้นสุดลง เว้นแต่ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปนานกว่า 10 ปี หรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้บนเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจต้องมีการโอนข้อมูลไปนอกประเทศไทยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6. เว็บไซต์ของกลุ่มบริษัท

เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในหน้าที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ของบริษัทจะบันทึกการเยี่ยมชมนั้นและเก็บข้อมูลต่อไปนี้

ข้อมูลข้างต้นนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสถิติเท่านั้น เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัทที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเยี่ยมชมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้บริษัททราบได้ว่าจะปรับปรุงบริการของบริษัทอย่างไร

หากท่านติดต่อบริษัท ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ใดๆ ของบริษัท หรืออีเมล์ถึงบริษัท บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่ท่านขอหรือเพื่อตอบข้อสอบถามของท่านเท่านั้น นอกจากนี้ หากท่านให้ความยินยอมตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทอาจเพิ่มที่อยู่อีเมล์ของท่านไว้ในรายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมายของบริษัท อย่างไรก็ดี ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้หากท่านไม่ต้องการรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท งานอีเวนท์ การส่งเสริมการขาย สินค้า และหรือบริการของบริษัทอีก

คุกกี้

สำหรับในส่วนของเว็บไซต์ที่จำกัดการเข้าถึง บริษัทจะใช้ “คุกกี้” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จดจำอุปกรณ์ของท่าน และเก็บข้อมูลบางประเภทในระหว่างที่มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์จากอุปกรณ์เครื่องเดิม เว็บไซต์ของบริษัทใช้คุกกี้เพื่อให้สามารถตอบสนองท่านได้ดีขึ้นเมื่อท่านเข้าใช้บริการบางส่วนของเว็บไซต์ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและวิเคราะห์จะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อของท่าน เช่น ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ และภาษาที่เลือกใช้ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ และไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้งานรายใดๆ ได้ ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ไม่ให้ตรวจหาคุกกี้ หรือเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้ได้หากท่านต้องการ

สิ่งสำคัญคือท่านต้องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านและเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านควรออกจากระบบทุกครั้งหากท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น

การบันทึกผู้เข้าถึงระบบ (Log Files)

บริษัทอาจดำเนินการบันทึกผู้เข้าถึงระบบหรือชมเว็บ หรือแอพพลิเคชั่น (Log Files) โดยเก็บบันทึกการเข้าออกแบบอัตโนมัติ รวมถึงที่อยู่ IP , รายงานข้อขัดข้อง , กิจกรรมระบบ ตลอดจนวันที่ เวลา และ URL ของผู้ใช้ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวกับข้อมูลซึ่งระบุตัวบุคคลได้ พร้อมทั้งจัดเก็บบันทึกตาม ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

กล้องวงจรปิด

บริษัทใช้กล้องวงจรปิดในการบันทึกภาพของบุคคลและยานพาหนะของบุคคลในและรอบๆ สถานที่ของบริษัท เพื่อผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยสาธารณะและเพื่อการป้องกันและตรวจจับอาชญากรรม กล้องวงจรปิดของบริษัทตรวจสอบทางเข้า ห้องโถง ระเบียง ที่จอดรถด้านนอกอาคาร รอบรั้วของอาคารและสถานที่ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงสถานที่ของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีการบันทึกและเขียนทับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ตำแหน่งกล้องถูกเลือกเพื่อลดการจับภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ที่ถูกต้องสำหรับการตรวจสอบและระบบเฝ้าระวังไม่ได้ใช้บันทึกเสียง

การป้อนข้อมูลสด (Live feeds) จากกล้องวงจรปิดจะได้รับการตรวจสอบเฉพาะในกรณีที่จำเป็นโดยผู้มีอำนาจของบริษัทเท่านั้น บริษัทให้ความเชื่อมั่นว่าการป้อนข้อมูลสดและภาพที่บันทึกจากกล้องจะถูกดูโดยพนักงานของบริษัทที่ผ่านการอนุมัติเท่านั้น เนื่องจากพนักงานดังกล่าวมีหน้าที่ความรับผิดโดยตรงจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของท่านโดยจะไม่มีกล้องวงจรปิดวางในบริเวณที่พึงคาดหมายได้ว่าต้องมีความเป็นส่วนตัว เช่น ในห้องน้ำ

เว็บไซต์อื่นๆ

เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งในกรณีดังกล่าว บริษัทไม่ใช้ผู้ควบคุมเว็บไซต์เหล่านั้น และไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้ดำเนินการเว็บไซต์เหล่านั้นในเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

นอกจากนี้ บริษัทอาจจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อบุคคลภายนอก รวมถึงการจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อลูกค้าสำหรับนิทรรศการหรืองานอีเวนท์ของลูกค้า เว็บไซต์เหล่านี้เป็นของลูกค้าของบริษัทหรือบุคคลภายนอกรายอื่น และแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ดังกล่าวจัดทำสำหรับนิทรรศการของลูกค้าหรือบุคคลอื่นเท่านั้น และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของลูกค้าและบุคคลอื่นดังกล่าวในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนเว็บไซต์ที่มีลิงค์ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท หรือเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใดๆ ที่จัดการหรือจัดให้มีโดยบริษัทเพื่อบุคคลภายนอก บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของข้อมูล ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นนั้นก่อน

7. ผู้เยาว์

          บริษัทไม่อาจทราบอายุของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้ หากท่านเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนแก่บริษัทโดยที่ท่านไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม ท่านอาจติดต่อบริษัทและขอให้บริษัทลบข้อมูลนั้นได้ ตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

8. การให้ความยินยอม

          เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับอนุญาต เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท หรือใช้หรือเข้าถึงเว็บไซต์ใดๆ ของบริษัท จะถือว่า

          หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นก่อน และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นแล้ว หรือมีสิทธิโดยประการอื่นที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท จะถือว่าท่านให้คำรับประกันว่าบุคคลนั้นทราบและให้ความยินยอมตามข้อกำหนดของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว

          หากกฎมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมเพิ่มเติมบริษัท หรือผู้ให้บริการแก่บริษัทรายใดๆ ที่เป็นบุคคลภายนอก จะดำเนินการให้ได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น

          ท่านมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัทเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามคำขอของท่าน หรือจัดให้บริการที่ท่านขอรับให้แก่ท่านได้ การที่ท่านไม่อนุญาตให้เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลบุคคลบางประเภทตามที่บริษัทได้แจ้งหรือขอ อาจทำให้บริษัทไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ หรือไม่สามารถประกอบธุรกิจ ดำเนินการทางธุรกรรมกับท่าน

9. สิทธิของท่าน

          9.1 สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

          9.2 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

          9.3 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

          9.4 สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

          9.5 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว สิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทจำกัดการประมวลผลข้อมูล โดยผู้ควบคุมข้อมูลสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ แต่ไม่สามารถนำไปประมวลผลข้อมูลได้อีกต่อไป เว้นแต่พนักงานจะให้ความยินยอม หรือได้รับการยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

          9.6 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

          9.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน

          9.8 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

10. ติดต่อบริษัท

          หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

          บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) สำนักงานแห่งใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 39/3 หมู่ที่ 8 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 โทร.034-424437-42

          บริษัทอาจคิดค่าใช้จ่ายตามสมควรสำหรับการดำเนินการตามคำร้องขอข้างต้น

11. การทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยี ท่านควรตรวจสอบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นระยะๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบหากมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้  


นโยบายนี้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1  มิถุนายน  2565 เป็นต้นไป